10.26.2014

Appreciative Inquiry การบริหารเวลา

การใช้ช่วงเวลาที่คุ้มค่าที่สุด


ช่วงเวลาที่ได้ไปเรียนภาษาที่เมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย เวลา2เดือน โดยที่ไม่มีพื้นฐานภาษาเลย แต่เมื่อไปถึงเราต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ๆ เรียนรู้วัฒนธรรมของเพื่อนจากชาติต่างๆ รวมไปถึงความรับผิดชอบที่ต้องมีมากขึ้นเนื่องจากเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย ทำให้เรารู้จักบริหารเวลา บริหารชีวิตตัวเอง จึงทำให้เราสามารถเต็มที่ได้ทั้งกับเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน เรื่องการเที่ยว จึงบอกได้ช่วงเวลา 2 เดือนนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้
----------------------------------------------------------------------------------------------



ช่วงเวลาของการไปฝึกงานที่กรุงเทพมหานคร แต่เมื่อเราไปถึง เราก็ได้รู้ตัวเองว่า เราเป็นคนที่ทำงานไม่เป็นระบบเหมือนอย่างเด็กกรุงเทพ และไม่จริงจังกับเรื่องเวลามากนัก ทำให้หัวหน้างานเรียกไปตำหนิ จึงได้ปรับเปลี่ยนระเบียบวินัยของตัวเอง ก่อนจะนอนต้องวางแผนการทำงานของวันพรุ่งนี้ วางแผนเวลาเดินทาง และลำดับความสำคัญของงานว่างานไหนควรใส่ใจมากน้อย งานไหนควรทำเสร็จก่อน ทำให้เราเป็นคนที่ทำงานอย่างละเอียดมากขึ้น รอบคอบขึ้น และทำงานได้เก่งขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------


ช่วงที่สอบ CU-TEP เพื่อเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเราแย่มาก ถ้าเทียบกับตัวเลขก็คือ เท่ากับ 0 เลยต้องไปติวที่มหาวิทยาลัยร่วมกับเด็กกรุงเทพ แต่ในการไปติวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะ การเรียนที่นั่นไปเร็วมาก และคนที่ไปติวส่วนใหญ่ก็เก่ง ซึ่งที่นั่นเต็มไปด้วยการแข่งขัน และเราก็โดนคนที่นั่นดูถูก มันจึงทำให้เราต้องกลับมาอ่านหนังสือเองเพื่อเร่งสปีดตัวเองเพื่อให้ทันคนอื่นๆ การตั้งใจครั้งนั้นทำให้คะแนนการสอบ CU-TEP  ของเราดีขึ้นเรื่อยๆ จากการสอบอย่างต่อเนื่อง 10 ครั้ง มันจึงทำให้รู้ว่าการทำอะไรด้วยความตั้งใจและไม่ยอมแพ้ ทำยังไงเราก็ชนะ
----------------------------------------------------------------------------------------------



ช่วงทำงาน ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่อึดอัดมาก เพราะในทีมงานส่วนใหญ่จะอายุมากกว่าเราและมีประสบการณ์มากกว่าเรา ในเวลาที่เขาสอนเราไปแล้ว ถ้าเราไม่เข้าใจ เราจะไม่กล้าถามเขา เพราะทุกๆคนมีงานยุ่งมาก จึงทำให้ต้องรีบเรียนรู้งานให้เร็วที่สุด และในช่วงนั้นเราก็ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับทีมงาน มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่หลังจากที่เราผ่านพ้นมันไปได้ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาที่เราใช้ไปนั้นไม่เสียเปล่าเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------
(พยายาม เรียนรู้ ความอดทน)



ข้อดีหรือข้อเสียของคนหรือบริษัท

ปั๊มน้ำมัน PTT กับปั๊มน้ำมันที่อื่น

ปตท.นั้นเรียกได้ว่าเป็นการออกแบบให้เป็นปั๊มน้ำมันครบวงจร ที่ไม่ว่าจะมีเซเว่นซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่คนนิยมมากที่สุด และร้านกาแฟอะเมซอน ยังไม่รวมถึงร้านปลีกย่อยอื่นๆที่แตกต่างกันไปในแต่ละสาขา ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า 71export หรือร้านของฝากขึ้นชื่อ รวมไปถึงร้านอาหาร ศูนย์อาหารตามจังหวัดต่างๆที่เป็นจุดแวะพัก และที่สำคัญคือใส่ใจกับความสะอาดของห้องน้ำมาก เรียกได้ว่าเป็นปั๊มน้ำมันปั๊มเดียวที่ตอบโจทย์ได้เกือบครบทุกด้านเลยทีเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------------


AIS กับ TUREMOVE

Ture move นั้นมีข้อดีคือเป็นผู้ให้บริการ Internet 3g ที่เร็วกว่าAIS แต่ในขณะที่ 
AISมีข้อดีอยู่ที่ความสเถียรของคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์และการให้บริการลูกค้า
----------------------------------------------------------------------------------------------


ห้าง Central กับ Big C
ห้าง Central มีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลาย มีสถาบันติวเตอร์หลายสถาบันอยู่ในนั้น 
นอกจากจะมีสินค้าหลากหลายและมีสถาบันติวเตอร์หลายสถาบันแล้วยังมี โรงหนัง 
และการจัดนิทรรศการตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งถือได้ว่าครบวงจร
----------------------------------------------------------------------------------------------


สถาบันภาษาอังกฤษ I-Genius กับ AUA

                สภาบันภาษาอังกฤษ I-Genius มีการนำเพลงและหนังเข้ามาประยุกต์กับ
การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ มีการเรียนแบบบุฟเฟ่ซึ่งทำให้ได้เรียนภาษาอังกฤษ
ด้เป็นเวลานานทำให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวเข้ากับภาษาอังกฤษได้

----------------------------------------------------------------------------------------------
(สะดวก แตกต่าง ครบครัน)



คนหรือองค์กรที่เป็นตัวอย่าง

พระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

ในหลวงได้ช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศอาจกล่าวได้ว่า ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทย
ที่รอยพระบาทได้ประทับลง ได้ทรงขจัดทุกข์ยากนำความผาสุกและทรงยกฐานะความเป็นอยู่
ของราษฎร ให้ดีขึ้นด้วยพระบุญญาธิการ และพระปรีชาสามารถปราดเปรื่อง พร้อมด้วยสาย
พระเนตรอันยาวไกล ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของราษฏรและเพื่อความเจริญพัฒนา
ของประเทศชาติตลอดระยะเวลาโดยมิได้ทรงคำนึงประโยชน์สุขส่วนพระองค์เลย


----------------------------------------------------------------------------------------------


คริสโตเฟอร์ พอล การ์ดเนอร์ 
เป็นมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเขาเอง เป็นนายทุนที่ร่ำรวย 
มีความสามารถในการพูดจูงใจผู้อื่นและยังใจบุญอีกด้วย คริสต้องเผชิญกับช่วงที่ยากลำบาก
ของชีวิต เขาต้องต่อสู้ดิ้นรนเนื่องจากไม่มีบ้านอยู่ทั้งๆที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว คริสโต
เฟอร์ จูเนียร์ ในปี 2006 นั้น เขาเป็นซีอีโอของบริษัทนายหน้าค้าหุ้นของเขาเองคือ Gardner Rich
 & Co มีสำนักงานอยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ อันเป็นที่อยู่ของเขาในคราวที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่
นครนิวยอร์ก คริสบอกว่าความสำเร็จและอดทนของเขานั้นได้รับมาจากแม่ Bettye Jean Triplett, 
née Gardner และกำลังใจที่สำคัญที่สุดในการสู้ชีวิตของเขาคือลูกชายคริส จูเนียร์ และลูกชาย
จาซิสตา ของเขานั่นเอง คริสต้องเผชิญกับช่วงลำบากของชีวิต เขาสร้างตัวมาจากการเป็นนายหน้า
ค้าหุ้นในช่วงที่เป็นพ่อหม้ายและคนพเนจรไร้บ้าน

----------------------------------------------------------------------------------------------

ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
รับช่วงกิจการจากคุณพ่อที่เสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน  พร้อมกับแบกรับภาระหนี้ของ
บริษัทกว่า 100 ล้านบาท ในฐานะลูกชายคนโตของบ้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ
 บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ซึ่งในขณะนั้นมีวัยเพียง 25 ปี และกำลังศึกษาปริญญาโทควบ
2 ใบ จากสถาบันชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ปริญญาโทด้านการเมืองการปกครอง 
สาขาการบริหารภาครัฐ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและด้านบริหารธุรกิจที่ Sloan Massachusetts
 Institute of Technology จึงต้องดร็อปเรียนและอาสากลับมาดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อที่
ประเทศไทย ในปีแรกจากการประกอบธุรกิจจึงมียอดขายถึง 300 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทเป็น
บริษัทค้าน้ำมันรำข้าวอันดับ 3 ของประเทศ แบ่งฐานลูกค้าเป็นภายในประเทศ 50% และ
ต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอิตาลี อีก 50% โดยรวม
มียอดขายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยโตปีละ 10-20% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1,600 ล้านบาท

----------------------------------------------------------------------------------------------


Steve Jobs 
เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีประวัติน่าสนใจ เขาลาออกจากมหาลัยหลังเข้าเรียนไปได้เพียง 6 เดือน  เพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า  การเรียนมหาลัยจะช่วยอะไรในชีวิตเขา
ได้
 แต่ 10 ปีหลังจากนั้น  เขากับเพื่อนได้คิดค้นเครื่องคอมพิวเตอร์  Mac ได้สำเร็จ  เป็น
เครื่องแรกของโลก
  และก่อตั้งบริษัท Apple ขึ้น  ในโรงรถ ในวัยเพียง  20 ปี  ต่อจากนั้นอีก
  
10 ปี  Apple กลายเป็นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ มีพนักงานมากมาย แต่หลังจากที่เขาเพิ่ง
เปิดตัว
Macintosh   ซึ่งเป็นประดิษฐกรรมสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดของเขา ได้เพียงปีเดียว 
Steve Jobs ก็ถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งเองกับมือ  หลังจากที่เขาทะเลาะกับ
ผู้บริหารที่เขาจ้างมาด้วยตัวเอง
  ชื่อ จอห์น สกัลลีย์ [John Sculley]  และกรรมการบริหาร
ทั้งหมดเลือกที่จะเข้าข้างผู้บริหารที่ชื่อจอห์น สกัลลีย์
นับจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  ชีวิตเขาก็เหมือนกับทุกอย่างมันพังทลายลงมา เขาหมดอะไรตายอยากถึง 5 ปี เต็ม  ในระหว่างนั้น Apple ก็ทรุดลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะผ่านผู้บริหารไปหลายคนก็ตาม เขาตัดสินใจลุกขึ้นสู้อีกครั้งหนึ่ง เขาเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Next และ Pixar และ
พบรักกับ 
Laurence ซึ่งต่อมาเป็นภรรยาของเขา Pixar ได้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนจาก
คอมพิวเตอร์
  เป็นเรื่องแรกของโลกนั่นคือ Toy Story และขณะนี้เป็นสตูดิโอผลิตการ์ตูน
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
  ต่อมาบริษัท Apple ก็มาซื้อ  Next ของเขา

เขาจึงได้กลับไปยังบริษัทเก่าที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นมา  เขาได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่คิดค้น
ขึ้นภายในบริษัท 
Next เพื่อฟื้นฟูให้กับ Apple ที่ทรุดลงไปให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

----------------------------------------------------------------------------------------------




Dream

       ทางกลุ่มเลือกธุรกิจรีสอรท์ โดยมีการออกแบบที่แตกต่างคือ สร้างรีสอรท์เป็นรูปเรือ อยู่บนภูเขาที่มีทะเลหมอก ให้ลูกค้าได้รู้สึกเหมือนอยู่บนเรือที่โลดแล่นไปกับบรรยากาศอันสวยงาม แสนสดชื่นของทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ยามเช้า และสัมผัสกับอากาศที่สุดแสนโรแมนติกในตอนกลางคืน ซึ่งจะมีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจร มีทั้งร้านอาหาร โรงละคร สวนสนุก คาสิโน และผลักดันรีสอรท์แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออันดับต้นๆของเมื่องไทย ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย และผู้บริหารทั้ง4 คนก็ช่วยกันดูและรีสอร์ทแห่งนี้โดยแบ่งไปตามความถนัดของแต่ละคน มีรายได้หลายร้อยล้านต่อปี
 
Design
10 วัน

สำรวจพื้นที่ ทำเลที่เหมาะสมแก่การตั้งกิจการรีสอรท์ เรือบนทะเลหมอก


10 สัปดาห์

วางแผนการทำงานในด้านต่างๆ ทุกด้าน
โดยทุกๆด้านต้องผ่านกระบวนการศึกษามาอย่างละเอียด


10 เดือน

สร้างอาคารรีสอร์ทหลังแรกเสร็จเรียบร้อย พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยื่อน
 และวางแผนที่จะพํฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง


10 ปี

รีสอร์ทเติบโตเป็นสถานที่พักผ่อนครบวงจร ครบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร
 สวนสนุก โรงละคร และคาสิโน กิจการกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินอันดับต้นๆ
ของท้องถิ่น มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาตลอดทั้งปี





นางสาว วรภา  คงสมของ 565740210-2
นางสาว วิลาสินี  กุลบวรรัตน์ 565740164-3
ว่าที่ ร้อยตรีอภิวัฒน์ แก้วมโน  565740627-7
น.ส.นิศารัตน์ วีระแพทย์ 565740194-4

MBA KKU Young Executive 15 Section 1